ภายในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนนั้น ที่ภายนอกดูเหมือนจะเป็นการ์ตูนตลกเฮฮา กลับสอดแทรกข้อคิด ให้เด็กนั่นได้เข้าใจเกี่ยวกับความเป็นจริงของโลก เรื่องบางเรื่องถ้าทำแบบไหนจะดีหรือทำแบบไหนจะไม่ดี ในการ์ตูนที่ควรเปิดให้เด็กยุคสมัยใหม่ดูเพื่อที่จะได้เข้าใจในชีวิตมากยิ่งขึ้น นอกจากการ์ตูนที่ฉายบนทีวีแล้ว เราก็สามารถดูหนังโดราเอมอนบนจอยักษ์ในโรงหนังกันได้แล้ว โดยดูแลมันได้ปล่อยหนังออกมาให้เราได้ดูกันอยู่หลายภาค แฟนตัวยงของตัวการ์ตูนตัวนี้แล้ว ก็คงจะต้องตามดูหนังตั้งแต่ภาคแรกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในแต่ละภาคนั้นจะเป็นการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่าง โดราเอมอน โนบิตะ ชิซูกะ ไจแอนท์ และซึเนโอะ ที่เป็นตัวละครหลักอยู่แล้วนั่นเอง
โดยในเรื่องที่เราจะได้พบจากการดูหนังเรื่องนี้นั่นก็คือ เรื่องราวการผจญภัยของโนบิตะและโดเรม่อน กับผองเพื่อนอีกสามคน มีใครทำการเปิดดูหนังไซไฟ ดูกันอย่างเมามัน แต่จู่ๆ พวกเขาก็ได้ไปพบเจอกับยานอวกาศ โดยบังเอิญแบบไม่ตั้งใจเป็นยานอวกาศขนาดเล็ก พอได้ไปดูใกล้ๆและทำการสำรวจรอบๆแล้วสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีชื่อว่าปาปิ ซึ่งปาปิ หลบหนีมาจากกองทัพ PCIA ที่ได้ทำการไล่ยิงเขา กองทัพเหล่านั้นก็มาจากดาวบ้านเกิดของเขาเองซึ่งมีชื่อว่าดาวพิริกา โดยพวกของโดเรม่อนนั้นก็ได้ทำการผูกมิตรเป็นเพื่อนกับปาปิ จึงเป็นการสานสัมพันธ์อันดีงาม แต่แล้วกองทัพเหล่านั้นก็ได้เข้ามาโจมตีพวกเขา และทำการลักพาตัวปาปิไป ทำให้พวกของโดเรม่อนและ โนบิตะ ไม่สามารถทนเฉยดูต่อไปได้ จึงทำการร่วมมือกันเพื่อออก เดินทางไปยังอวกาศ เพื่อทำการช่วยเหลือปาปิให้รอดพ้นจากเหล่าวายร้าย จากหน่วยรบ PCIA ให้รอดออกมาอย่างปลอดภัย
พวกเขานั้นจะทำอย่างไรต่อไป ปาปิถูกจับตัวไปไว้ที่ไหน ก็ขอใช้วิทยาลัยเพื่อตามหาปาปิและช่วยออกมาได้หรือไม่พวกเราก็ต้องไปติดตามกันต่อไปภายในหนังเรื่องโดราเอมอนเดอะมูฟวี่ ตอนสงครามอวกาศจิ๋วของโนบิตะ ไม่ทราบจุดจบและบทสรุปของหนังเรื่องนี้กันนั่นเอง ขอบอกเลยว่า ดูหนังแฟรนไชส์ของโดเรม่อนในทุกภาคนี้ ที่ผ่านมา แจ้งถึงความสนุกสนานเฮฮากันอย่างเดียวแต่กาแฟไม่ถึงมิตรภาพอันดีงามและดราม่าสุดซึ้ง ซึ่งทำให้พวกโนบิตะภายในหนังนั้นดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าภายในการ์ตูนทั่วไป บางทีเพียงแค่การ์ตูนเรื่องหนึ่งก็สามารถทำให้ผู้ใหญ่บางคนร้องไห้ออกมาได้ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่ต้องมาร้องไห้กับหนังของโดเรม่อน
หนังเรื่องนี้นั้นได้ถูกรีเมคมาจากเวอร์ชั่นปีหนึ่งเก้าแปดห้า ที่เป็นผลงานร่วมสมัย ยังมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่ สะท้อนให้เห็นถึงการปกครองอย่างเผด็จการยึดอำนาจจากอิสรภาพของผู้คน ตัวหนังเรื่องนี้นั้นได้เล่าออกมาถึงผลเสียของการใช้เผด็จการอย่างตรงไปตรงมาอย่างจริงจังและนำมุกตลกมาเพื่อผ่อนคลายให้ผู้คนนั้นไม่เครียดจนเกินไป และจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ในทุกๆภาคก็คือมิตรภาพของ เพราะเขาที่ได้ทำการช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค ต่างๆนานาเพื่อให้รอดพ้นจากภัยพิบัติอันตรายออกไปให้ได้